Star Dust Online เมื่อหมู่ดาวพร่างพราวเต็มฟากฟ้า
ซีโร่กับจอนนี่ได้พบเจอกันที่ รร.แห่งหนึ่ง มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายจนทำให้ทั้งคู่สนิทกัน จากนั้นสองหนุ่มก็ได้พบกับเกมส์ออนไลน์ภาพเสมือนจริงซึ่งเป็นโลกที่จะพาทั้งคู่ไปผจญภัยร่วมกัน ฝ่าฟันอุปสรรคร่วมกัน
ผู้เข้าชมรวม
859
ผู้เข้าชมเดือนนี้
126
ผู้เข้าชมรวม
เกมออนไลน์ แฟนตาซี เวทมนตร์ เก็บเลเวล ผจญภัย เกม โลกเสมือนจริง ต่อสู้ MMORPG เกมส์ออนไลน์ เกมเสมือนจริง แอคชั่น สงคราม online เบาสมอง
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ณ โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ย่านใจกลางเมืองกรุงเทพฯ เวลา 7.30 น.
โรงเรียนแห่งนี้เป็นโรงเรียนที่มีขนาดใหญ่พอสมควร ในพื้นที่ขนาด 50 ไร่ซึ่งประกอบด้วย อาคารเรียน 6 หลัง สนามฟุตบอลและฟุตซอล สระว่ายน้ำ ค่ายมวยและอีกมากมาย ทำให้โรงเรียนแห่งนี้ดูครบเครื่องเรื่องการเรียนและกีฬา
เด็กหนุ่มวัย 16 ปีหน้าตาคมเข้มผิวแทน สูง 175 ซม. รูปร่างสมส่วน ตัดผมรองทรงสูง สวมชุดนักเรียน ม.ปลายกางเกงขาสั้นสีดำ เดินส่ายอาดๆมาถึงหน้าโรงเรียนโดยมือซ้ายมีกระเป๋านักเรียนหนังสีดำแบบถือเอาไว้ และมีตัวหนีบบีบด้านข้างทั้งสองจนทำให้กระเป๋าแบนเรียบ บ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าไม่มีหนังสือเรียนสักเล่มเดียว ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของนักเรียนชายประเภทชอบเกเรที่มีค่านิยมผิดๆจึงทำตามกันมาแบบนี้
เด็กหนุ่มก้าวเท้าเข้ามาในประตูรั้วโรงเรียนพร้อมกวาดสายตามองไปรอบๆเที่ยวหนึ่ง มองเห็นเหล่านักเรียนชายและหญิงเดินกันขวักไขว่ทั่วบริเวณด้านในโรงเรียน
“ที่นี่งั้นหรอ‘อชิระวิทยา’ที่เขาว่ากันว่ารวมเด็กเกเรจากย่านนี้เอาไว้ที่นี่ทั้งหมด”เด็กหนุ่มผิวแทนพึมพำกับตนเองพร้อมกับก้าวเดินเข้าไปด้านในโรงเรียนมากยิ่งขึ้น
โดยโรงเรียนแห่งนี้แม้มองดูภายนอกจะเป็นโรงเรียนที่ดูโอ่อ่าไฮโซ แต่กลับรวบรวมพวกเด็กเกเรและพวกเด็กที่โดนไล่ออกจากที่ต่างๆมารวมตัวกันอยู่ที่นี่แทบทั้งสิ้น เด็กหนุ่มผิวแทนเดินลึกเข้าไปอีกประมาณ 50 เมตรก็พบกับร้านขายขนมกับเครื่องดื่มเล็กๆซึ่งทางโรงเรียนมีไว้บริการเด็กๆในโรงเรียน เขาไม่รอช้าเดินเข้าไปหวังจะซื้อน้ำมาดื่มสักแก้วเพื่อดับกระหาย
แต่ยังเดินไม่ทันถึงหน้าร้านกลับโดนขวางทางเอาไว้ด้วยเด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกันสามคน ซึ่งที่ทราบว่าเป็นคนรุ่นเดียวกันเพราะเห็นมีดาวสีแดงหนึ่งดวงปักอยู่บนปกเสื้อของทั้งสาม ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของนักเรียนชั้นม.4 นั่นเอง
“เห้ย! หน้าไม่คุ้นเลยวะ เป็นเด็กใหม่ใช่ป่าว เอามา 5 บาทดิ๊!”เด็กร่างอ้วนท้วนผิวขาวเอ่ยทักขึ้นด้วยเสียงที่ดังอยู่ไม่น้อย โดยมีเด็กร่างผอมอีกสองคนที่มาพร้อมกันยืนกระจายวงล้อมด้านซ้ายและขวาของเด็กหนุ่มผิวแทนพร้อมกับแสยะยิ้มกว้าง
เด็กหนุ่มผิวแทนที่กำลังก้มลงหยิบกระเป๋าสตางค์ได้ยินดังนั้นจึงค่อยๆเงยหน้าขึ้นจ้องมองผู้พูดพร้อมกับขมวดคิ้วมุ่นแล้วกล่าวสวนกลับไปหน้าตายว่า“พูดกับฉันหรอ?”
เด็กร่างอ้วนได้ยินดังนั้นก็ถึงกับหางคิ้วกระตุกพร้มกับคิดในใจ 'เห็นชัดๆว่ายืนล้อมมันอยู่ ไม่คุยกับมันแล้วจะให้คุยกับใคร ไอหมอนี่ท่าจะเพี้ยนแหะ' แต่ปากก็พูดขึ้นว่า “พูดกับเอ็งนั่นแหละ ข้าเกื้อเสือร้าย หัวหน้าห้อง ม.4/5 เป็นเด็กเก่าของที่นี่ตั้งแต่ ม.ต้น อย่าคิดหือจะดีกว่าไอเด็กใหม่”
ได้ยินดังนั้นแทนที่เด็กหนุ่มผิวแทนจะหวาดกลัว เขากลับแสยะยิ้มกว้างกลับคืนพร้อมกับกล่าวขึ้นว่า
“อ้อ แกเองหรอหัวหน้าห้อง 5 พอดีเลยจะได้ไม่ต้องเดินหา”สิ้นคำก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง ยกเท้าขวายันเข้าใส่ยอดอกของเด็กร่างอันทันที!
โครม! โอ๊ย!
เด็กชายร่างอ้วนกลิ้งหงายหลังเป็นลูกขนุน ส่วนเพื่อนอีกสองคนที่มาพร้อมกันก็ตกใจไปวูบหนึ่ง จากนั้นหนึ่งในสองก็กัดฟันกรอดพร้อมกับพูดขึ้น“หนอย! แกกล้าทำเพื่อนฉันหรอ”
กล่าวจบก็พุ่งหมัดขวาตรงเข้าชกเด็กหนุ่มผิวแทนดังฟุบ! หมัดพุ่งแหวกอากาศด้วยความเร็ว แต่เด็กหนุ่มผิวแทนไม่แยแสสนใจ เขาเพียงเอนตัวไปด้านหลังเล็กน้อยก็ดึงหลบหมัดนั้นได้แบบสบายๆ พร้อมกันนั้นเขาก็ยกเท้าขวาขึ้นถีบเข้าท้องน้อยเด็กชายคนนั้นจนลงไปนอนจุกอยู่ที่พื้นอีกราย ส่วนเด็กหนุ่มอีกคนเห็นฝีมือของเด็กหนุ่มผิวแทนก็ไม่กล้าผลีผลามเข้าไปช่วยเพื่อน ได้แต่ยืนยึกยักอยู่กับที่
“จำเอาไว้ฉันชื่อ 'ซีโร่' ม.4/4 เด็กใหม่สายอังกฤษ - เยอรมันเว้ย!” เด็กหนุ่มผิวแทนหรือซีโร่กล่าวอย่างอหังการแถมยังยืนเก๊กหล่อเต็มที่ เนื่องจากขณะนี้รอบๆบริเวณมีนักเรียนทั้งชายและหญิงมามุงดูกันอยู่เต็มไปหมด…
ปี๊ดๆๆๆๆ!!!
แต่เสียงนกหวีดแหลมบาดหูก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะความเท่ห์ของซีโร่พร้อมกับที่มีชายกลางคนวัย 40 กว่าปีผิวคล้ำร่างผอมสูงสวมชุดพนักงานรักษาความปลอดภัยประจำโรงเรียนวิ่งเข้ามาระงับเหตุ
“น้าเบิ้มมา วิ่งเร็ว!”เกื้อเสือร้ายพูดขึ้นกับพวกพร้อมกับรีบลุกขึ้นล้วออกวิ่งโกยอ้าวไปคนแรกโดยมีเพื่อนร่างผอมอีกสองคนวิ่งตามไปติดๆ แต่ซีโร่ที่เป็นนักเรียนใหม่ของที่นี่ยังคงยืนแอ็คอาร์ทวางมาดอยู่กับที่ด้วยความมั่นหน้าสุดๆ
“หยุดอยู่ตรงนั้นแหละ ไหน เด็กคนไหนก่อเรื่อง!”พนักงานรักษาความปลอดภัยภายในโรงเรียนที่มีชื่อว่า
'น้าเบิ้ม' พูดขึ้นเสียงดังพร้อมกับแหวกกลุ่มนักเรียนเพื่อมายังสถานที่เกิดเหตุ
ส่วนซีโร่ที่พึ่งจะรู้ตัวก็หันกลับมามองน้าเบิ้มพร้อมกับยิ้มแห้งๆพร้อมเกาหัวแก้เขิน “ผมเองครับน้า แหะๆ”
น้าเบิ้มจ้องเขม็งไปยังซีโร่ตัวต้นเรื่องพร้อมกับกล่าวเสียงเข้ม “ตามฉันมาที่ป้อมหน้าโรงเรียน” พูดจบก็หันหลังกลับพร้อมกับออกเดินนำไปโดยมีซีโร่เดินตามไปอย่างว่าง่าย
เมื่อเดินไปถึงก็พบกับป้อมเล็กๆขนาด 5x5 เมตรโดยมีเพียงพัดลมเพดานหนึ่งตัวกับโต๊ะและเก้าอี้อีกสองตัวตั้งอยู่ตรงกลางป้อมเล็กๆแห่งนี้ ไว้เพื่อให้น้าเบิ้มได้พักผ่อนระหว่างทำงาน
“นั่งก่อนสิ”น้าเบิ้มพูดพร้อมกับชี้ไปยังเก้าอี้อีกตัวที่ว่างอยู่
“ขอบคุณครับ”ซีโร่ตอบพร้อมกับนั่งลงอย่างเรียบๆร้อยๆ
“พึ่งเข้ามาเรียนใหม่ที่นี่งั้นหรอพ่อหนุ่ม?”น้าเบิ้มถาม
“ใช่ครับน้า”ซีโร่ตอบสั้นๆ
“อืม ไหนว่ามาสิมีเรื่องอะไรกัน”น้าเบิ้มถามต่อ
“ผมกำลังจะเดินไปซื้อน้ำแล้วไอสามคนนั้นมันมาดักไถเงินผมครับ”ซีโร่อธิบาย
“อ่อ ก็เลยมีเรื่องกัน”น้าเบิ้มต่อให้
“ใช่ครับ”ซีโร่รับคำสั้นๆ
“อืม เอาละน้าก็ไม่ได้จะว่าอะไรหรอก เพราะจริงๆแล้วเรื่องเมื่อครู่ก็ถือเป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆสำหรับที่นี่ละนะ เอ็งเป็นเด็กใหม่เดี๋ยวคงจะได้เจออะไรอีกเยอะ ที่เรียกมานี่เพรพาะจะมาเตือนให้ระวังเอาไว้บ้าง เพราะที่นี่รวมบรรดาเด็กเกเรที่อยู่แถวนี้เอาไว้ทั้งหมด แถมยังมีบางคนเป็นลูกคนใหญ่คนโตซะด้วย ระวังจะไปเจอตอเข้าให้สักวัน”น้าเบิ้มกล่าวเตือนด้วยรอยยิ้มอบอุ่น
“ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะครับน้าเบิ้ม”ซีโร่พูดพร้อมกับยกมือไหว้ขอบคุณพร้อมกับขอตัวจากไป
“เฮ้อ…โรงเรียนนี้มันก็ต้องอลเวงแบบนี้แหละนะ ถ้าหากวันไหนไม่มีเรื่องมีราวสิคงจะเหงาแย่ ฮ่าๆ”น้าเบิ้มพึมพำกับตนเองพร้อมกับอมยิ้มน้อยๆ
หลังจากที่ออกมาจากป้อมขอน้าเบิ้มแล้วก็ใกล้เวลาเข้าแถวเคารพธงชาติพอดี ซีโร่จึงเดินไปเข้าแถวตรงจุดที่เขากำหนดเอาไว้ให้ โดยมีป้ายกำกัยด้านหน้าว่าห้อง ม.4/4
และเนื่องจากวันนี้เป็นวันเปิดเรียนวันแรก เหล่านักเรียนจึงชุลมุนวุ่นวายอยู่ไม่น้อย โดยมีทั้งเด็กใหม่และเด็กเก่าปะปนกันวุ่นวายโดยเฉพาะนักเรียนชั้นม.1 และ ม.4 ที่ส่วนใหญ่เป็นนักเรียนใหม่แกะกล่องของโรงเรียนแห่งนี้ จึงทำให้ยังคงทำตัวไม่ค่อยถูกสักเท่าไหร่
ซีโร่เดินวนไปมาสักพักก็หาแถวของตนเองเจอ เขาตัดสินใจเดิินไปต่อที่ท้ายแถวซึ่งขณะนี้ยืนกันในลักษณะแถวตอนลึก
เมื่อเดินไปถึงท้ายแถวก็พบกับเด็กหนุ่มหน้าตาลูกครึ่งผมทองโดดเด่นกว่าใครเพื่อนยืนอยู่ท้ายแถว ซีโร่หยุดมองอยู่ครู่หนึ่งจากนั้นก็เดินไปยืนต่อจากเด็กหนุ่มลูกครึ่งคนนั้น
เด็กหนุ่มลูกครึ่งเองรู้สึกได้ว่ามีคนเดินมาทางด้านหลังก็หันกลับไปมอง จึงทำให้ซีโร่ได้เห็นหน้าเด็กหนุ่มลูกครึ่งคนนี้ชัดๆ เขาเป็นเด็กหนุ่มผิวขาว ผมสีทองอ่อนๆ จมูกโด่งเป็นสันเล็กน้อย นัยย์ตาทั้งสองเ็นสีน้ำตาลดูมีเสน่ห์ ส่วนสูงไล่เลี่ยกับซีโร่ประมาณ 175 ซม. รูปร่างสมส่วน
เด็กหนุ่มลูกครึ่งนั้นเมื่อหันมาเจอซีโร่ก็ยิ้มกว้างให้พร้อมกับทักทายด้วยภาษาไทยแปล่งๆที่ติดสำเนียงฝรั่งอยู่ซะส่วนใหญ่ว่า“สวัสดี นายอยู่ห้อง ม.4/4 เหมือนกันหรอ”
“อืม”ซีโร่ตตอบสั้นๆพร้อมกับยิ้มน้อยๆกลับไปตามมารยาท
“ฉัน 'จอนนี่' เป็นลูกครึ่งไทย - อังกฤษ ตอนแรกฉันเรียนอยู่ที่อังกฤษแต่พอดีมีปัญหานิดหน่อยเลยย้ายมาเรียนที่นี่”
เด็กหนุ่มลูกครึ่งหรือจอนนี่ร่ายยาวแนะนำตัวพร้อมกับรอยยิ้มกว้างอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
“ฉันซีโร่ เป็นคนไทยแท้ 100% ย้ายมาเรียนที่นี่เพราะต้องการเป็นเบอร์หนึ่งของที่นี่”ซีโร่ตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่นประกอบกับแววตาที่แน่วแน่มั่นคงนั่นแล้ว ทำให้เด็กลูกครึ่งอย่างจอนนี่ต้องเปลี่ยนมุมมองเพื่อมองซีโร่ใหม่ แต่กระนั้นจอนนี่ก็ยังคงถามต่อว่า“Why? ทำไมถึงอยากเป็นนัมเบอร์วันของที่นี่ละ”
“เพราะที่นี่รวมพวกเด็กเกเรละแวกนี้ไว้ทั้งหมดนะสิ ถ้าฉันเป็นเบอร์หนึ่งของที่นี่ก็เท่ากับฉันมีอิทธิพลเหนือกว่าวัยรุ่นคนไหนในละแวกนี้ทั้งหมด”ซีโร่ตอบอย่างมั่นใจ
“แล้วถ้ามีอิทธิพลเหนือคนอื่นแล้วนายจะทำอะไรหรอ”จอนนี่ยังคงถามต่อ
‘ไอนี่พูดไม่ค่อยชัด ดันขยันพูดซะด้วย’ซีโร่นึกในใจอย่างหมั่นไส้แต่ก็ตอบไปว่า"ทำอะไรงั้นหรอ…ถึงเวลาเดี๋ยวก็รู้เอง"
ถึงซีโร่จะกล่าวไปผ่านๆแบบนั้นแต่จริงๆแล้วเหตุผลจริงๆของความคิดอันบ้าระห่ำนี้ต้องย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีก่อน
เมื่อ 2 ปีก่อนซีโร่เป็นเพียงเด็กธรรมดาคนหนึ่งที่มีผลการเรียนอยู่ในระดับดีถึงดีมาก แต่ที่ซีโร่ชอบทำส่วนใหญ่กลับเป็นกิจกรรมต่างๆของโรงเรียนเช่น การแข่งกีฬาประเภทต่างๆทำให้ซีโร่มีร่างกายที่อดทนและมีกล้ามเนื้อที่แข็งแรง ในตอนนั้นซีโร่พึ่งอยู่ชั้น ม.2 และได้พบรักกับรุ่นพี่ ม.4 ต่างโรงเรียน โดยทั้งคู่ต่างคุยกันอย่างถูกคอ ซีโร่จึงตัดสินใจจะขอเธอเป็นแฟน แต่ในตอนนั้นเอง ‘โอ’ รุ่นพี่ ม.4 ที่เรียนโรงเรียนเดียวกับหญิงสาวก็มาประจันหน้ากับซีโร่ ละบอกว่ากำลังคบกับผู้หญิงคนนั้นที่ซีโร่กำลังคุยด้วยอยู่ ซึ่งความจริงแล้วซีโร่ในตอนนั้นไม่รู้จักการต่อยตีสักเท่าไหร่ แต่ด้วยการที่เขามีร่างกายที่แข็งแรงจึงพอฟัดพอเหวี่ยงกับโอรุ่นพี่ และเมื่อโอเห็นสู้กันสูสีจึงตัดสินใจเรียกเพื่อนมาช่วยกันรุมซีโร่จนสะบักสะบอมพร้อมกับจากไปกับหญิงสาวคนนั้น
และนี่ก็เป็นแผลในใจของซีโร่เมื่อสองปีที่แล้ว ซึ่งเป็นเหตุผลทำให้เขาย้ายมาเรียนที่นี่เพื่อจะเอาคืนชายหนุ่มชื่อโอ
แต่อนิจจา 2 ปีผ่านไปซีโร่ซึ่งพัฒนาตัวเองอย่างเต็มที่ทั้งศิลปะป้องกันตัว ความแข็งแรง ไหวพริบปฏิภาณกลับต้องมาพบว่าโอโจทก์เก่าของเขานั้นก็พัฒนาตัวเองโดยขึ้นเป็นหัวโจกใหญ่ 1 ใน 3 กลุ่มใหญ่ประจำโรงเรียนแห่งนี้ไปซะได้ ซีโร่ที่หวังแก้แค้นจึงต้องคิดอ่านวางแผนในการแก้แค้นใหม่ โดยได้แรงบัลดาลใจจากภาพยนต์เรื่องหนึ่ง โดยซีโร่วางแผนที่จะยึดชั้นเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4 ให้ได้ทั้งหมด จากนั้นก็รวบรวมสมัครพรรคพวกเพื่อไปท้าชนกับกลุ่มของโอที่เป็นรุ่นพี่ ม.6
กลับมาที่ปัจจุบัน หลังจากเลิกแถวเคารพธงชาติเสร็จ นักเรียนทุกคนต่างก็แยกย้ายไปเรียนยังห้องเรียนของตนเอง
โดยซีโร่กับสมาชิกในห้อง ม.4/4 ก็พากันมุ่งหน้าตรงไปยังอาคาร 4 ชั้นแรกที่มีป้ายไม้แกะสลักสวยงามแขวนเอาไว้หน้าห้องว่า‘มัธยมศึกษาปีที่ 4 ห้อง 4’
เมื่อเข้ามาถึงซีโร่ก็เลือกที่นั่งท้ายห้องฝั่งติดกับหน้าต่าง ซึ่งเป็นมุมสุดฮิตของบรรดาพระเอกในการ์ตูนดังหลายๆเรื่อง
เมื่อนั่งลงแล้วก็พบว่าด้านหน้าถัดไปหนึ่งที่นั่งนั้นปรากฏเจ้าจอนนี่เด็กหนุ่มลูกครึ่งผมทองนั่งส่งยิ้มกว้างมาให้
"นั่งด้วยคนนะซีโร่"จอนนี่กล่าวขึ้นพร้อมรอยยิ้ม
"อืม ตามสบาย"ซีโร่ตอบแบบไม่ใส่ใจมากนัก จากนั้นทั้งสองก็คุยสัพเพเหระกันไปเรื่อยเปื่อยจนเริ่มรู้จักกันมากขึ้นเล็กน้อย
ครืดดด..
เสียงเปิดประตูเลื่อนหน้าห้องดังขึ้นจึงทำให้เสียงจอแจของเหล่านักเรียนที่กำลังคุยกันอยู่เมื่อครู่นั้นเบาลงไป พร้อมกับที่สายตาทุกคู่หันไปมองที่ประตูทางเข้าห้องอย่างพร้อมเพรียงกัน
หญิงสาวอายุประมาณ 30 ปีสวมแว่นตาเล็กๆสีฟ้าอ่อน ใบหน้ารูปไข่ ปากนิดจมูกหน่อย องคาพยพโดยรวมถือว่าเป็นผู้หญิงที่หน้าตาดีพอสมควร เมื่อเหล่่านักเรียนได้หยุดคุยกันจนห้องเงียบสนิทครูสาวก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงหวานใส่ว่า"สวัสดีจ้ะเด็กๆ ขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการนะจ้ะ ครูชื่อ ‘อริสา’ หรือจะเรียกครูสาก็ได้นะจ้ะ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปครูจะมาเป็นครูประจำชั้นของพวกเธอห้อง ม.4/4 นะจ้ะ"
จากนั้นก็มีนักเรียนหญิงร่างอวบผิวขาวที่นั่่งอยู่หน้าห้องพูดขึ้น "นักเรียนทั้งหมดทำความเคารพ"
"สวัสดีครับ/ค่ะคุณครู"นักเรียนทุกคนในห้องพูดประสานเป็นเสียงเดียวกันพร้อมกับยกมือไหว้ครูอริสา
"สวัสดีอีกรอบจ้ะเด็กๆ"ครูอริสายกมือรับไหว้พร้อมรอยยิ้มเมตตา
จากนั้นก็หันไปมองเด็กผู้หญิงคนเมื่อครู่แล้วเอ่ยถาม"เธอชื่ออะไรจ้ะ"
"หนูชื่อ 'โอปอ' ค่ะคุณครู"เด็กสาวตอบพร้อมยิ้มแป้น
"อืม ต่อไปนี้ครูขอแต่งตั้งให้เธอเป็นหัวหน้าห้อง ม.4/4 ละกันนะ นักเรียนที่เหลือมรใครคัดค้านรึเปล่าจ้ะ"ครูอาริสาพูดแล้วหันไปถามนักเรียนที่เหลือในห้อง ซึ่งก็พากันส่ายหน้ากันหมด
"เอาละงั้นต่อไปโอปอจะเป็นหัวหน้าห้อง ม.4/4 อย่างเป็นทางการนะจ้ะ ครูฝากด้วยละ"ครูอริสาพูดพร้อมกับเอื้อมมือไปจับไหล่ซ้ายของโอปอ
"หนูจะทำให้ดีที่สุดค่ะ"เด็กหญิงผิวขาาวร่างอสบหรือโอปอยิ้มตอบ
"แล้วโอปอรู้รึเปล่าว่าหัวหน้าห้องต้องทำอะไรบ้าง"ครูอริสาเอ่ยถาม
"ก็พอจะรู้อยู่บ้างค่ะ พอดีตอน ม.ต้น หนูเป็นหัวหน้าห้องมาตลอดเลยนะค่ะ"โอปอตอบ
"ถ้าแบบนั้นก็ดีเลยจ้ะ ครูคงจะวางใจได้เยอะเลย"ครูอริสาพูดขึ้นอย่างสบายใจแล้วเอ่ยต่อว่า"งั้นต่อไปเราจะมาเริ่มแนะนำตัวทำความรู้กกันใหม่กันทั้งหมดเลยก็แล้วกัน เพราะยังไงก็ต้องอยู่ห้องเดียวกันไปอีก 3 ปีเต็มๆ"
"ครับ/ค่ะ"เด็กๆต่างขานรับกันอย่างพร้อมเพรียง
"งั้นเริ่มจากหัวหน้าห้องก่อนเลยก็แล้วกัน โอปอเชิญจ้ะ"ครูอริสาพูดขึ้นพร้อมรอยยิ้มเมตตา
"ได้ค่ะ"โอปอรับคำพร้อมกับลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปยืนหน้าห้องเรียนและเริ่มแนะนำตัว"สวัสดีเพื่อนๆทุกคน ฉันโอปอ เป็นเด็กเก่าของที่นี่ั้งแต่ ม.ต้น ส่วนเหตุผลที่เลือกเรียนสาขาอังกฤษ-เยอรมันนี้ก็เพราะที่บ้านทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไหล่รถยนต์นำเข้าจากเยอรมัน ฉันเลยต้องมาศึกษาภาษาเอาไว้เพื่อช่วยงานที่บ้านต่อในอนาคตนะ ยังไงก็ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะทุกคน"โอปอร่ายยาาวด้วยน้ำเสียงมั่นใจของคนที่มีภาวะผู้นำและมีความรับผิดชอบ จากนั้นเธอก็ยิ้มกว้างพร้อมกับโค้งตัวน้อยๆเป็นเชิงถ่อมตัว ซึ่งเรียกเสียงปรบมือเกรียวกราวจากเพื่อนๆร่วมห้องได้เป็นอย่างดี
หลังจากนั้นโอปอก็กลับมานั่งประจำที่และจากนั้นก็มีนักเรียนอีกหลายคนผลัดเปลี่ยนกันออกไปแนะนตัวหน้าห้องเรียนจนวนมาถึงรอบของจอนนี่ เด็กหนุ่มลูกครึ่งผมทองกับดวงตาสีน้ำตาลอันทรงเสน่ห์
"สวัสดีทุกคนผมชื่อ จอนนี่ ดรูอิธ เป็นลูกครึ่งไทยอังกฤษ และเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนให้มาเรียนที่นี่ ส่วนเหตุผลที่เลือกเรียนสายอังกฤษ-เยอรมันก็เพราะคนสมัครเรียนห้องนี้น้อยดี ฉันไม่ชอบคนเยอะๆนะ ฮ่าๆๆ"จอนนี่อธิบายพร้อมยิ้มขำแต่กระแสตอบรับกลับเป็นความเงียบดุจป่าช้าแทน ซึ่งอันที่จริงจอนนี่ก็กล่าวไม่ผิดห้อง ม.4/4นี้เป็นห้องเรียนที่มีคนมาสมัครเรียนน้อยที่สุดในบรรดาทั้งหมด 8 ห้องเรียน โดยเฉลี่ยนักเรียนห้องอื่นจะมียอดราวๆ 40-45 คนแต่ห้อง ม.4/4นี้มีนักเรียนเพียง 26 คนเท่านั้น ซึ่งเหตุผลก็เพราะว่าการที่จะใช้ภาษาเยอรมันในการต่อยอดอนาคตนั้นมีตัวเลือกที่น้อยกว่าสายภาษาของห้องเรียนอื่น จึงทำให้ห้อง ม.4/4 นี้มีสมาชิกน้อยกว่าปกติเกือบเท่าตัว
และเมื่อครูอริสาเห็นบรรยากาศแปลกๆจึงรีบปรบมือเสียงดังพร้อมกล่าวว่า"เอาละทุกคนปรบมือให้เพื่อนหน่อย"
นักเรียนที่เหลือได้ยินดังนั้นจึงได้แต่ยิ้มแห้งๆพร้อมกับปรบมือเปาะแปะและมองจอนนี่ที่เดินยิ้มร่ากลับมานั่งที่ของตนเองด้วยสายตามองคนประหลาด
"ต่อไปคนสุดท้ายเชิญจ้ะ"จากนั้นครูอริสาก็เอ่ยทำลายความเงียบพร้อมกับภายมือไปทางซีโร่ที่นั่งอยู่รมหน้าต่างท้ายห้อง
ซีโร่ได้ยินดังนั้นจึงลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกมาแนะนำตัว "สวัสดีผมซีโร่ เป็นนักเรียนใหม่ของที่นี่ ส่วนเหตุผลที่ย้ายมาห้องนี้ก็เหมือนกับที่จอนนี่พูดไปเมื่อกี้ คนมันน้อยดี ฉันไม่ชอบวุ่นวาย ไม่เห็นจะแปลกตรงไหน"
ซีโร่กล่าวจบก็ไม่สนใจสายตารอบด้านที่มองเขาเป็นตัวประหลาดคนที่สอง ชายหนุ่มเดินกลับมานั่งที่เดิมแบบมั่นหน้าสุดๆ
เมื่อกลับมาแล้วจอนนี่ก็กล่าวขึ้น"ฮ่าๆๆ Nice! นายแจ๋วดีวะ ฉันนึกว่าฉันจะเป็นไอบ้าคนเดียวในห้องซะแล้ว"
ซีโร่ได้ยินดังนั้นก็ถึงกับหางคิ้วกระตุก"ที่ฉันมีเหตุผลเหมือนนายก็ไม่ได้แปลว่าฉันจะเป็นไอบ้าเหมือนนายซะหน่อย"
"ฮ่าๆ ชั่งเถอะๆ ถึงจะบ้าแต่ว่าไม่โง่ก็พอ"จอนนี่สวนกลับอย่างไม่มีความสลดแม้แต่น้อย
จากนั้นก็เป็นการเริ่มคาบเรียนแรก ซึ่งเป็นวิชาคณิตศาสตร์ในเวลา 8.30น. - 9.30น. และต่อด้วยคาบที่สองวิชาภาษาไทยเวลา 9.30น. - 10.30น. และเมื่อจบทั้งสองวิชานี้แล้วก็เป้นเวลา 10.30น. ซึ่งทางโรงเรียนจะมีพักเบรค 10 นาทีเพื่อให้นักเรียนแต่ละคนได้มีเวลาพักสมองและลุกออกจากห้องไปเข้าห้องน้ำเพื่อล้างหน้าล้างตา โดยมีนักเรียนบางส่วนเดินออกไปทำธุระส่วนตัว แต่ซีโร่กับจอนนี่ยังคงนั่งคุยกันอยู่ในห้อง และเพียงไม่นาน จู่ๆก็มีเสียงตะโกนดังขึ้นจากประตูหน้าห้องว่า
"เห้ย! ใครชื่อซีโร่วะ"ผู้พูดเป็นเด็กหนุ่มร่างกำยำสูง 180 ซม. ผิวขาวหน้าตาตี๋ๆแบบคนจีน
"ฉันเอง"ซีโร่ที่นั่งอยู่ท้ายห้องพูดขึ้นพร้อมกับลุกขึ้นยืน ซึ่งทำให้จอนนี่ที่กำลังนั่งคุยอยู่ด้วยต้องหันไปมองชายหนุ่มหน้าตี๋ที่ยืนอยู่ตรงประตูหน้าห้อง
"อ่อ แกเป็นเด็กใหม่นี่หว่า ถึงว่าทำไมกล้ามายุ่งกับไอเกื้อเพื่อนฉัน"ชายหนุ่มหน้าตี๋กล่าว เขาหันไปมองเพื่อนที่เดิมตามมาอีก 4 คนแล้วพยักหน้าเป็นเชิงให้สัญญาณพร้อมกับพูดขึ้นเสียงเข้ม "ลุยเว้ย!"
พูดจบชายทั้ง 5 คนก็วิ่งอ้อมโต๊ะนักเรียนที่ขวางทางอยู่มายังซีโร่ที่อยู่ด้านหลังห้องริมหน้าต่าง
ซีโร่เองก็ไม่ได้ตกใจอะไร ซึ่งจริงๆแล้วดูเหมือนจะชินกับเรื่องแบบนี้ไปซะแล้วด้วยซ้ำแถมยังยิ้มมุมปากน้อยๆพร้อมกับพึมพำกับตัวเองเบาๆ "แบบนี้ก็ดีเหมือนกันแหะ พวกตัวหัวโจกมาให้เชือดทิ้งทีละคนเลย"
จากนั้นซีโร่ก็หันหลังเข้าหน้าต่างเพื่อป้องกันการโดนลอบโจมตีจากด้านหลัง เพราะอีกฝ่ายมีจำนวนเยอะกว่า
หนุ่มตี๋ที่พุ่งเข้ามาเป็นคนแรกกระโดดถีบเท้าขวาใส่ซีโร่โดยหวังจะให้โดนช่วงท้องของซีโร่ แต่ซีโร่เพียงแค่เบี่ยงตัวไปทางขวาเล็กน้อยพร้อมกับใช้แรงเบี่ยงตัวนี้เหวี่ยงหมัดขวาฮุคโค้งเข้าใส่เต็มๆกรามซ้ายของหนุ่มหน้าตี๋
ผัวะ! อ็อก!
เสียงหมัดกระทบกรามดังขึ้นพร้อมๆกับเสียงร้องด้วยความเจ็บปวด หนุ่มหน้าตี๋เซถอยหลังไปสามก้าวซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับที่เพื่อนอีก 4 คนวิ่งอ้อมมาสมทบทันพอดี ทำให้ชายหนุ่ม 2 ใน 4 ที่พึ่งมาใหม่พุ่งเข้าไปประคองหนุ่มหน้าตี๋เอาไว้ได้ ส่วนอีกสองคนก็พุ่งเข้ามาโจมตีซีโร่ต่อเป็นจังหวะต่อเนื่อง
ชายคนแรกหวดแข้งขวาเข้าใส่ลำตัวเองซีโร่ แต่ชายหนุ่มยกขาซ้ายขึ้นสูงใช้หน้าแข้งของตนเองตั้งรับไว้ จากนั้นเมื่อซีโร่ปล่อยขาซ้ายลงพื้นก็บิดเอวขวาหวดแข้งขวาคืนสนองกลับไปทันควัน ชายคนแรกไม่ทันตั้งตัวว่าซีโร่จะป้องกันแล้วโจมตีสวนกลับมาทันทีทำให้ลำแข้งลุ่นๆของซีโร่หวดเข้าไปเต็มๆซี่โครงด้านซ้ายแบบเต็มรัก
อ็อก! ชายคนแรกร้องออกมาด้วยความจุกพร้อมเซถลาไปด้านข้างและพยายามเอามือไขว่คว้าอากาศรอบด้านเพื่อหวังจะหาที่จับเพื่อช่วยพยุงตัวไม่ให้ล้มลงจนในที่สุด…
หมับ!
ชายหนุ่มคนแรกก็หาที่พึ่งทางกายเจอจนได้ แต่เมื่อสายตาหันไปมองว่าตนเองกำลังจับอะไรค้ำยันอยู่ก็ถึงกับต้องยิ้มแห้งๆออกมาแทน
จอนนี่หนุ่มลูกครึ่งที่นั่งเฉยๆอยู่แต่แรกบัดนี้กำลังจ้องชายตรงหน้าเขม็งเนื่องจากมีมือข้างหนึ่งกำลังมาค้ำหัวของเขาอยู่
"แกรู้ไหมว่านอกจากครอบคัสแล้วก็มีแค่ช่างตัดผมนั่นแหละที่มีสิทธิ์มาจับหัวฉัน!"จอนนี่คำรามรอดไรฟันพร้อมกับใช้มือซ้ายสะบัดปัดมือข้างที่ค้ำหัวของเขาออกพร้อมกับลุกขึ้นใช้เท้าซ้ายยันเข้าที่ใบหน้าอีกฝ่ายไปเต็มๆเป็นการตอบแทน ทำให้ชายคนแรกผู้โชคร้ายหงายหลังลงไปกองกับพื้นกรรมการนับแปดทันที
"บาทาลูบพักตร์อะรู้จักป่าว"จอนนี่พูดพร้อมกับแสยะยิ้มเหี้ยมเกรียม
ซีโร่ที่เห็นเหตุการณ์เมื่อครู่เอ่ยกับจอนนี่ทั้งที่ยังคงจ้องคุมเชิงกับชายคนที่สองอยู่ว่า"เอาไง แบบนี้ก็เท่ากับนายมีเอี่ยวกับเรื่องนี้ด้วยแล้วนะ"
"ช่วยไม่ได้ บังอาจมาจับหัวฉันก่อนเอง แต่แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน กำลังคันไม้คันมืออยู่พอดีเลย"จอนนี่พูดพร้อมกับทำท่าหักนิ้วมือทั้งสองข้างดังกรอบแกรบ
"พูดก็ไม่ค่อยชัด ยังจะขยันพูดจริงๆนะไอหรั่ง"หนุ่มหน้าตี๋ที่มีเพื่อนอีกสองคนประคองอยู่เริ่มตั้งตัวได้แล้วพูดขึ้นขัดจังหวะ จากนั้นก็หันไปพูดกับเพื่อนของเขาว่า"เรายังมีตั้ง 4 คน 4 ต่อ 2 ยังไงก็ได้เปรียบ พวกเราลุย!"พูดจบก็พากันย่างสามขุมเข้าหาซีโร่กับจอนนี่ทันทีโดยมีเพื่อนอีก 3 คนตามเข้ามาติดๆ
"คนละสองละกัน" จู่ๆซีโร่ก็เอ่ยขึ้น
"ฉัน 3 นาย 1 ดีกว่า"จอนนี่คุยโว
"งั้นนายนั่งเฉยๆเดี๋ยวฉันจัดการ 4 คนเอง"ซีโร่เกทับ
"เอางั้นหรอ ก็ดีนะ"จอนนี่กวนโอ้ยพร้อมกับทิ้งตัวลงนั่งหน้าตาเฉย ซีโร่ที่เห็นดังนั้นถึงกับหางคิ้วกระตุกพร้อมคิดในใจว่า
‘เหอะ รอให้จัดการไอ 4 คนนี้ก่อนเถอะ แกจะได้เป็นรายต่อไปเจ้าจอนนี่ตัวแสบ’แต่ภายนอกตอนนี้ซีโร่ยกสองมือขึ้นมาตั้งการ์ดเตรียมปะทะเต็มที่ เขาคิดจะใช้การป้องกันเป็นหลักแล้วหาโอกาสโจมตีสวนไป
"นี่ๆ จะไม่ทักท้วงสักหน่อยหรอ"เสียงยียวนของจอนนี่ดังขึ้นขัดจังหวะ
"ฉันไม่เคยขอให้ใครช่วย"ซีโร่ตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
"ฉันก็ไม่ได้จะช่วย แต่ฉันแค่อยากมีส่วนร่วมด้วยอะ มีคนมาให้อัดถึงที่แบบนี้ พลาดไปคงเสียดายแย่ ฮ่าๆๆ"จอนนี่ยิ้มขำพร้อมกับลุกขึ้นมายืนข้างซีโร่
"พวกแกจะโม้กันอีกนานไหมวะ"ชายหนุ่มหน้าตี๋ที่ทนฟังมานานแล้วกล่าวขัดขึ้น
"ฮ่าๆ ขอบใจที่พวกแกมีมารยาท ไม่ขัดจังหวะเวลาคนเขาคุยกัน เอาละ เรามาต่อเรื่องของพวกเรากันดีกว่า"จอนนี่พูดพร้อมแสยะยิ้มกว้าง
"พวกเรา ลุย!"ชายหนุ่มหน้าตี๋กล่าวเปิดฉากการตะลุมบอนหมู่พร้อมกับกระโจนเข้าหาซีโร่กับจอนนี่โดยมีเพื่อนอีก 3 คนตามมาติดๆ
"เหอะๆ"ซีโร่เพียงแค่นเสียงในลำคอแล้วพุ่งเข้าใส่อีกฝ่ายเช่นกัน
"ฮ่าๆ เข้ามาเลย"จอนนี่หัวเราะร่าพร้อมกระโจนเข้าหาอีกฝ่ายด้วยสีหน้าและท่าทางดุจสัตว์ป่าที่หิวกระหายมานาน
และแล้วการตะลุมบอนกันของบรรดาเด็กหนุ่มวัยรุ่นไฟแรงแบบ 4 ต่อ 2 ก็เริ่มอุบัติขึ้น โดยที่ไม่มีใครรู้เลยว่า การต่อสู้ร่วมกันของซีโร่และจอนนี่ครั้งแรกนี้ที่ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่แน่นแฟ้นขึ้น จะเป็นชนวนเหตุของความวุ่นวายที่ทำให้ทั้งในโลกไซเบอร์และโลกแห่งความจริง ในอนาคตอันใกล้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่…
โปรดติดตามตอนต่อไป…
ผลงานอื่นๆ ของ White-Crow ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ White-Crow
ความคิดเห็น